ขี่สโนโมบิลกลางหิมะหนา เข้าโซนเปิดใหม่ที่ USJ และประสบการณ์เก็บสตอเบอร์รี่ลูกโตๆ สุดประทับใจ
เมื่อตัดสินใจแล้วก็ต้องไปต่อ! นี่จะเป็นครั้งแรกที่ตัดสินใจไปเที่ยวญี่ปุ่นเองโดยไม่ได้ไปกับครอบครัวและต้องแพลนเองทุกอย่าง ใช้เวลาอยู่หลายวันมากกว่าจะหาตั๋วเครื่องบิน หาที่เที่ยว จองโรงแรม และซื้อประกันการเดินทาง แต่ดีที่มีตัวช่วย มาถึงตอนนี้ก็พร้อมลุยละ วันบินก็คือชิวเพราะมี
รถลีมูซีนมารับถึงหน้าบ้าน และเช็คอินได้แบบรวดเร็ว เพราะเอเจนซี่ที่จองตั๋วด้วย เขาออนไลน์เช็คอินให้แล้ว
เกาะแรกของที่ญี่ปุ่นที่เราจะไปเยือนก็คือ เกาะฮอกไกโด เกาะที่อยู่เหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น
ที่ขึ้นชื่อ เรื่องหิมะ snow powder ซึ่งเป็นหิมะที่ขาวนุ่ม เนียนละเอียด และเบาเหมือนผงแป้ง ความรู้สึกแรกที่ถึงฮอกไกโดคือหนาวมากก เพราะอากาศตอนนั้น -8 แต่เราก็ไม่หวั่น ต้องรีบไปเอารถเช่า เพราะจุดหมายแรกของเราคือที่ NISEKO แม้ว่าหลายๆคนเดินทางไปที่ NISEKO เพื่อเล่นสกี แต่ของเราคือไม่ค่ะ ไปเพื่อขี่ Snowmobile และได้เห็นหิมะ powder snow หนาๆล้วนๆ
สำหรับการขี่ Snowmobile ไม่ต้องกลัวเลยถ้าเราไม่เคยขี่ เพราะว่าจะมีเจ้าหน้าที่คอยสอนและดูแลความปลอดภัยตลอดกิจกรรม โดยครั้งนี้ course ที่เลือกจะเป็น standard course (นั่ง1คน 12,000JPY, นั่ง 2 คน (24,000JPY) ที่สำคัญคือแนะนำให้จองก่อนมา เพราะว่าถ้าwalk-in เลย อาจจะไม่มีที่สำหรับเรา ระหว่างการขี่ก็คือหิมะตกตลอด วิวที่มองเห็นคือทุกที่ปกคลุมไปด้วยหิมะเหมือนที่เราคาดหวังเลย
หลังจากนั้นวันต่อมาเราก็ได้ไป พิพิธภัณฑ์ที่คนไทยไปมากที่สุดในตัวเมืองSapporo นั่นก็คือ พิพิธภัณฑ์กล่องเสียง (Music Box Museum) ซึ่งเมื่อเดินเข้าไปก็จะได้ยินแต่เสียงเพลงต่างๆ จากกล่องเสียงไขลานนับหลายร้อยอัน รูปร่างน่ารัก น่าซื้อเป็นของขวัญไปให้แฟนมากๆ
อีกพิพิธภัณฑ์นึงที่ขาดไม่ได้นั้นก็คือ Shiroikoibito Park ที่เปิดมาตั้งแต่ปี1976 ที่นี่เราจะได้เห็นวิธีการทำและการแพคขนม Shiroikoibito คุกกี้สอดไส้ช็อคโกแลตที่ขึ้นชื่อของ Hokkaido ที่ใครมาก็ต้องซื้อกลับไปฝากคนที่บ้าน
สำหรับใครที่มีเวลาก็สามารถซื้อบัตรเข้าแบบพิเศษที่สามารถเข้าไปแต่งหน้าคุกกี้กันเองได้
พูดเรื่องที่เที่ยวไปแล้ว ที่ขาดไม่ได้เลยคือที่พัก ที่พักที่ประทับใจที่สุดในทริปฮอกไกโดก็ คือ
Otaru Kourakuen ที่นี่จะเป็นเรียวกังแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ตั้งอยู่ในเมืองโอตารุ ห้องแบบที่จองก็คือจะมีบ่อ
ออนเซ็นอยู่กลางห้องเราจองแบบรวมอาหารเช้าและเย็นอาหารจะมาเสริฟที่ห้องเป็นเซ็ตญี่ปุ่น(kaiseki)
โดยวัตถุดิบที่นำมาทำอาหารก็จะเป็นวัตถุดิบท้องถิ่นที่มีตามฤดูการนั้นๆ บอกได้เลยว่า อลังการ!!
แต่มากไปกว่านั้นคือทางเรียวกังจะมี drink bar ตรงล้อบบี้ ที่จะมีขนม เครื่องดื่มต่างๆ รวมไปถึง"ไวน์" บริการเราโดยไม่มีค่าใช้จ่ายจนถึงตอนเช็ค-เอ้าท์ ต้องบอกว่าคุ้มกับเงินที่จ่ายไปสุดๆ
Comments